ตรีทวายทัวร์

มัณฑะเลย์ พินอูลวิน สี่ป้อ อมรปุระ 5 วัน 4 คืน

Video Credit: Watt Go - Southern Myanmar


จากกรุงเทพฯ เราจะบินลัดฟ้าสู่มัณฑะเลย์ ราชธานีสุดท้ายแห่งพม่า เพื่อจะเดินทางต่อสู่รัฐฉานดินแดนแห่งหุบเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสหภาพเมียนมา รัฐฉานยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เร้นลับ ต้องห้าม และน่าออกค้นหาเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังมีความงดงามทางธรรมชาติหลายแห่งและยังคงความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เรื่องราวของรัฐฉานถูกถ่ายทอดสู่โลกภายนอกผ่านนักเขียนชื่อดังของโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จอร์จ ออร์เวลล์, มอริส คอลลิส, และที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็น อิงเง่ ซาเจนท์ หรือ พระนางสุจันทรี มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งนครสี่ป้อกับเรื่องราวทางการเมืองในช่วงการปฏิวัติของนายพลเนวินและการหายตัวไปของเจ้าฟ้าจ่าแสงผู้เป็นพระสวามี ย้อนรอยตำนานแห่งเจ้าฟ้าหลวงเมืองสี่ป้อ พร้อมพาท่านนั่งรถไฟข้ามสะพานก็อกเต็ก (Gokteik) ซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดของพม่า และสัมผัสเมืองตากอากาศที่ขึ้นชื่อที่สุดของประเทศพม่า ณ เมืองพินอูลวิน (Pyin Oo Lwin) สุขใจไปในดินแดนรัฐฉาน ย้อนอดีตสู่ยุครุ่งเรือง

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์ คลิก..

โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก กรุงเทพฯ – มัณฑะเลย์ – พระราชวังมัณฑะเลย์ – วิหารชเวนันดอร์ – วัดกุโสดอ - มัณฑะเลย์ฮิลล์
08.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (อาคาร 1) ชั้น 3 ประตู 1-2 สายการบินแอร์เอเชีย (FD) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทาง
10.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยเที่ยวบินที่ FD244 สายการบิน แอร์เอเชีย (FD)
12.20 น. เดินทางถึง สนามบินมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร ปรับเวลาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น (เวลาที่พม่าช้ากว่าที่ประเทศไทย 30 นาที) จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองมัณฑะเลย์ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองสกาย ลุ่มแม่น้ำอิรวะดี และเจดีย์จำนวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่น้ำ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองมัณฑะเลย์ หลังอาหาร นำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามินดงภายหลังการย้ายเมืองหลวงจากอมรปุระมายังมัณฑะเลย์เพื่อหนีทหารอังกฤษ เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังจนได้ชื่อว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย มีคูน้ำรอบพระราชวังและประตูที่ยิ่งใหญ่ แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารอังกฤษคิดว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกองกำลังของญี่ปุ่น จึงได้ทำลายพระราชวังเสียโดยการทิ้งระเบิดในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2488 จนได้รับความเสียหาย พระราชวังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ทางรัฐบาลพม่าได้จำลองขึ้นมาใหม่โดยการลอกแบบโครงสร้างเดิม สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางต่อไปยัง พระตำหนักไม้สักชเวนันดอร์ (Golden Monastery) ซึ่งสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลังพร้อมงานไม้แกะสลักวิจิตรงดงาม มีอายุมากกว่า 100 ปี และเป็นวิหารไม้สักเพียงหลังเดียวของพระเจ้ามินดงที่รอดจากการเผาทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์ กษัตริย์ธีบอหรือสี่ป่อ พระโอรสก็ทรงยกพระตำหนักนี้ถวายเป็นวัด สถาปัตยกรรมของพระตำหนักแสดงถึงงานฝีมืออันประณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง จากนั้นนำท่านนมัสการ วัดกุโสดอ ซึ่งที่นีเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคยานาพระไตรปิฏกครั้งที่ 4 สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองในปี พ.ศ. 2400 พระเจ้ามินดงทรงให้จารึกพระไตรปิฏก 84,000 พระธรรมขันธ์ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น ถือเป็นพระไตรปิฏกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกพระไตรปิฏกเป็นภาษาบาลีและได้นำมาประดิษฐานในมณฑปอยู่รอบ ‘พระเจดีย์มหาโลกมารชิน’ มีความสูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกามนั่นเอง
เย็น เดินทางไป มัณฑะเลย์ ฮิลล์ ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ มีความสูง 236 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีปูชนียสถานสำคัญๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน ทั้งธรรมชาติ การชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม และสามารถมองเห็นเมืองมัณฑะเลย์ได้เกือบทั้งหมด
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Shwe Ingyin Hotel หรือ Marvel Hotel
วันที่สอง มัณฑะเลย์ – พินอูลวิน – เจดีย์ Maha Ant Htoo Kan Thar - น้ำตกปเวก๊อก - สวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี – ตลาด Night Market
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมือง พินอูลวิน (Pyin Oo Lwin) รถวิ่งไปบนถนนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หรือที่เรียกกันในยุคสงครามว่า Burma Road มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ราว 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองพินอูลวินหรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เมเมี๊ยว’ (Maymyo) เมืองพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศพม่ามาตั้งแต่ยุคสมัยอาณานิคมอังกฤษ และที่แห่งนี้ท่านจะได้สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดทั้งปี
11.00 น. เดินทางถึงเมืองพินอูลวิน จากนั้น นำท่านนมัสการวัด Maha Ant Htoo Kan Thar Pagoda ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปที่คนไทยเรียกว่า ‘พระทันใจ’ ซึ่งแกะสลักจากหินอ่อนทั้งองค์ ตามประวัติกล่าวว่า มีชาวจีนได้มาบูชาองค์พระทันใจไปไว้ที่ประเทศจีน ระหว่างการเดินทาง รถเกิดอุบัติเหตุ องค์พระตกจากรถ ไม่สามารถจะยกขึ้นรถไปได้อีกไม่ว่าจะใช้เครนช่วยยกก็ตาม สุดท้ายจึงต้องสร้างวัดบริเวณนี้เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวองค์นี้ พร้อมกับตั้งชื่อว่า ‘มหาอันตูกานตาร์’ ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า ‘เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ ที่ให้ความร่ำรวย โชคดีแก่ผู้กราบไหว้’ และเชื่อกันว่าเป็นพระรักชาติอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร December Garden
บ่าย หลังอาหาร นำท่านสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติอันแสนประทับใจที่ น้ำตกปเว ก๊อก (Pwa Gauk Falls) หรือ น้ำตกแฮมพ์เชียร์ (Hampshire Falls) ซึ่งเป็นที่นิยมเรียกกันในสมัยอาณานิคมอังกฤษ น้ำตกแห่งนี้สวยงามและมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวพม่า จากนั้นนำท่านไปชมความงดงามของพืชเมืองหนาวที่ สวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี (National Kandawkyi Botanical Garden) สวนแห่งนี้ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1915 (พ.ศ. 2458) โดย Alex Rodger และออกแบบให้เหมือนกับ สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิว (Royal Botanic Gardens) หรือสวนคิว (Kew Gardens) ในประเทศอังกฤษ ภายในสวนแห่งนี้ประกอบด้วยสนามหญ้าสวนหย่อม สระน้ำขนาดใหญ่ และมีป่าธรรมชาติ เป็นองค์ประกอบภายในสวน นอกจากจะตกแต่งสวยงามแล้วยังมีการให้ความรู้ด้านพรรณพืชและการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่กว้างขวางถึง 2,700 ไร่ ภายในสวนพฤษศาสตร์มีการปลูกพืชพันธุ์พื้นเมืองกว่า 514 สายพันธุ์ ต้นไม้จากต่างประเทศ 74 สายพันธุ์ มีการปลูกไผ่กว่า 75 ชนิด กล้วยไม้พันธุ์พื้นเมืองกว่า 300 ชนิด นอกจากนั้นยังมีการปลูกดอกไม้อีกจำนวนหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะดอกกุหลาบที่ถูกมาปลูกในสวนแห่งนี้กว่า 25 สายพันธุ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและต้นไม้อย่างแท้จริง จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่ตัวเมืองพินอูลวิน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังอาหารนำท่านเดินชมตลาดกลางคืน (Night Market) ของเมืองพินอูลวิน ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนประทับใจของตลาดพื้นเมืองเล็กๆ แห่งนี้พักที่ โรงแรม Win Unity Hotel หรือระดับใกล้เคียงกัน
วันที่สาม พินอูลวิน – สี่ป้อ – สะพานก๊อกเต็ก – หอเจ้าฟ้าเมืองสี่ป้อ – ตลาดเมืองสี่ป้อ
เช้า มิงกะลาบ่า...ยามเช้าอันสดใส บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังรับประทานอาหารเช้า นำท่านเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเพื่อเดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองพินอูลวิน นำท่านขึ้นรถไฟรอบ 08:00 น. มุ่งหน้าสู่เมืองสี่ป้อ เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์บนเส้นทางเดียวกับที่ทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองได้เห็นเมื่อยาตราทัพสู่จีนและในเวลาที่พระนางสุจันทรีพร้อมเกนรีและมายรี บุตรสาวทั้งสอง ได้นั่งรถไฟสายนี้ออกจากสี่ป้อมุ่งหน้าสู่ย่างกุ้งเพื่อย้ายไปพำนักที่นั่นภายหลังที่พระสวามีเจ้าฟ้าจ่าแสงถูกจับกุมระหว่างการปฏิวัติของนายพลเนวิน ผ่านป่าเขาที่เขียวขจี หุบเหวลึกอันแสนหวาดเสียว และภูสูงที่ยากจะบากบั่นไปถึง และผ่าน ‘สะพานก๊อกเต็ก (Gokteik)’ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเส้นทางรถไฟสายนี้ สร้างในปี ค.ศ. 1903 โดยตัวสะพานมีความสูง 95 เมตร ยาว 650 เมตร ก่อสร้างโดยบริษัท เพนซิลเวเนีย สตีล อเมริกา นับเป็นสะพานรถไฟที่สูงเป็นอันดับสองของโลก และเป็นสะพานรถไฟที่เก่าแก่และยาวที่สุดในพม่า จากสะพานข้ามหุบเหวนี้เลยไปจะผ่านเมือง จ๊อกแม (Kyaukme) ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะเมืองที่มีการจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลองของรัฐฉานในราวเดือนมีนาคม ซึ่งจะมีชาวไทยใหญ่จากที่ต่างๆ เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ก็เดินทางมาถึงเมือง Nyaung Cho ที่งดงามด้วยทุ่งหญ้า หุบเขา และภูสูง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองสี่ป้อ เมืองอันเป็นตำนานรักอมตะของเจ้าชายแห่งรัฐฉานกับสาวชาวออสเตรียซึ่งบันทึกผ่านหนังสือ Twilight Over Burma: My Life as a Shan Princess แปลโดยคุณมนันยาและตั้งชื่อใหม่เป็นภาษาไทยว่า “สิ้นแสงฉาน” ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าฟ้าชาวไทยใหญ่นามเจ้าจ่าแสงและหญิงสาวชาวออสเตรียนามอิงเหง่ ซาเจ้นท์ ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองครั้งใหญ่ในพม่าสมัยที่นายพลเนวินทำการปฏิวัติยืดประเทศและนำไปสู่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เร้นลับ ต้องห้าม และน่าออกค้นหาเป็นอย่างยิ่ง นำท่านไปเยือน หอเจ้าฟ้าเมืองสี่ป้อ ซึ่งมีรูปทรงสไตล์ยุโรปสองชั้น ซึ่งปัจจุบันนี้ หอเจ้าฟ้าทรุดโทรม และเก่าลงไปมากเพราะไม่ได้รับการซ่อมแซมมานานหลายปี หอเจ้าฟ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 และมีเจ้าจ๋ามพงษ์ เจ้าหญิงจากเมืองแสนหวีใต้ หรือที่เรียกกันว่า ‘เมืองใหญ่’ เป็นผู้ดูแลหอเจ้าฟ้าอันใหญ่โตนี้แต่เพียงผู้เดียว เจ้าจ๋ามพงษ์แต่งงานกับเจ้าอูจ่าซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของเจ้าจ่าแสง เรียกได้ว่าท่านมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของเจ้าจ่าแสงนั่นเอง จากตึกเจ้าฟ้าจะมีแม่น้ำตูอยู่ข้างๆ มีสระว่ายน้ำสีมรกต สนามเทนนิสของเจ้าฟ้าจ่าแสง หอเจ้าฟ้าซึ่งถูกดัดแปลงเป็นห้องรับแขก และห้องแสดงภาพประวัติเจ้าฟ้าสี่ป้อ โดยเจ้าจ๋ามพงษ์จะอธิบายประวัติความเป็นมาของตัวบ้านที่ห้องโถงรับแขก ซึ่งเป็นส่วนเดียวของในหอเจ้าฟ้าที่เปิดสำหรับบุคคลภายนอก พร้อมกับเล่าเรื่องราวจากรูปถ่ายแต่ละใบ ข้าวของเก่าแก่แต่ละชิ้นด้วยตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าประวัติศาสตร์จากบุคคลที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้น เปรียบเหมือนอาหารอันโอชะสำหรับผู้หลงใหลเรื่องราวในอดีตอันซับซ้อนของชาวไทใหญ่ ตั้งแต่เรื่องราวของตึกทรงโคโลเนียลอันเก่าแก่แห่งนี้ และบุคคลในภาพถ่ายขาวดำที่ล้วนโลดแล่นอยู่ในยุคที่การเมืองพม่าดุเดือดถึงขีดสุด จากนั้นนำท่านชมตลาดพื้นเมืองสี่ป้อ ให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวไทยใหญ่ที่เรียบง่ายและชมพระอาทิตย์ลาลับฟ้าอันแสนประทับใจ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Mr. Charles Hotel หรือ Tawwin Rose Hotel หรือระดับใกล้เคียงกัน
วันที่สี่ สี่ป้อ – เจดีย์บอจู พญา – ถ้ำ Peik Chin Myang – มัณฑะเลย์ – สะพานไม้อูเบ็ง
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้น นำท่านไปนมัสการ วัดประจำเมืองสี่ป้อ เจดีย์บอจู พญา หรือที่เรียกว่าวัดเจดีย์พระสี่องค์ ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในเมืองสี่ป้อและเจ้าฟ้าชาวไทยใหญ่หลายพระองค์ก็เคยเสด็จมานมัสการองค์พระเจดีย์แห่งนี้เช่นกัน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย ออกเดินทางกลับไปยังเมืองพินอูลวิน ระหว่างทางแวะเที่ยวชม ถ้ำ Peik Chin Myang Cave ซึ่งอยู่ทาง เหนือก่อนถึงเมืองพินอูลวิน ประมาณ 20 กม. เป็นถ้ำที่มีความลึกถึง 1,500 เมตร ประกอบไปด้วยหินงอก หินย้อย ตามธรรมชาติสวยงามและมีการสร้างพระพุทธรูปบรรจุไว้ภายในเป็นจำนวนมากตามความเชื่อและศรัทธาของชาวพม่า จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมัณฑะเลย์
เย็น เดินทางถึงเมืองมัณฑะเลย์ นำท่านชม สะพานไม้อูเบ็ง (U-Ben) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกทอดข้ามทะเลสาบทองตามัน (Toungthamon) ไปสู่วัดจอกตอจี ซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งพุกาม ตามประวัติเล่าว่ามีการนำไม้มาจากพระราชวังเก่ากรุงอังวะมาสร้างข้ามทะเลสาบ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Shwe Ingyin Hotel หรือ Marvel Hotel
วันที่ห้า มัณฑะเลย์ – พระมหามัยมุณี – เจดีย์หยก – สนามบินมัณฑะเลย์ – สนามบินดอนเมือง
04.00 น. นำท่านไปนมัสการ พระมหามัยมุนี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 แห่งของพม่าถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 689 มีขนาดความสูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหน้า 2 นิ้ว ทรงเครื่อง ประดับทองปางมารวิชัย จากนั้นนำท่านเข้าร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามุนี
06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น. ชมและนมัสการ เจดีย์หยก (Jade Pagoda) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองอมรปุระ เป็นพระเจดีย์ประดับประดาด้วยหยกทั้งภายใน และภายนอก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินมัณฑะเลย์
12.50 น. เดินทางถึงสนามบินมัณฑะเลย์ ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD245
15.00 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ



รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนกันได้ตามความเหมาะสม โดยอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าทัวร์และผู้ประสานงานท้องถิ่นในครั้งนั้น ๆ โดยจะยึดถือประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ และขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ปัจจุบัน



สอบถามรายละเอียด..คลิก



ภาพแกลลอรี่
FIND US ON:
About Southern Myanmar
Sothern Myanmar is a newly open tourist destination and still very much undiscovered by foreign tourists. The key tourist attractions are stunning, untouched white sandy beaches along Myanmar’s southern coastline including the pristine Murgui Archipelago and other eye-catching natural attractions. Highlights of Southern Myanmar also include Golden Rock Pagoda, the World War II cemetery and “Death Railway”, and the world’s largest reclining Buddha. The areas cover Mon State, Karen State, and Tanintharyi Division. Over the past 50 years, Southern Myanmar has been locked off to outside world; foreign travelers were restricted to flying in and out of Dawei, Myeik and Kawthaung. Until late in 2013 the travel restrictions were relaxed, and it’s now possible to travel as far south as Myeik overland... Read More >>