ออกค้นหาพม่าตอนใต้ผ่าน ‘วงกลมมหัศจรรย์ Loop 1’ เริ่มต้นจากด่านแม่สอด ลัดเลาะไปตาม ‘ทิวเขาดอยมอนกุจู’ หรือที่เรียกว่า ‘ทิวเขาดาวนา’ ในภาษาพม่า เข้าสู่รัฐกะเหรี่ยง ดินแดนที่แวดล้อมด้วยภูเขาหินปูนสลับซับซ้อนและมหัศจรรย์แห่งถ้ำอันแสนงดงาม ท่องไปในรัฐมอญ ตะลอนสู่เขตตะนาวศรี ผ่าน 2 รัฐ (State) 1 เขต (Division) 12 เมือง (Township) ยลเสน่ห์เมืองเก่าและย้อนเรื่องราวในอดีตอันแสนเลื่องลือ ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง สัมผัสวิถีชีวิตผู้คนกับความงามที่เรียบง่าย อิ่มบุญ พูนสุข ไปยังดินแดนแห่งม่านมนตรา...
แม่สอด เมียวดี พะอัน มะละแหม่ง ทวาย 4 วัน 3 คืน การเดินทางที่จะทำให้คุณรู้จักและรักพม่าตอนใต้มากยิ่งขึ้น
วันแรก: แม่สอด – เมียวดี – พะอัน | |
---|---|
08:00 น. | คณะพร้อมกันที่ ด่านแม่สอด หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองนำท่านออกเดินทางไปตามถนนเส้นใหม่ที่ตัดหลบภูเขาดาวนา (Dawna Range) หรือเรียกกันว่า ‘ทิวเขาดอยมอนกุจู’ ที่มีความยาวประมาณ 45 กิโลเมตรซึ่งเชื่อมต่อไปยังเมืองกอกะเร็ก (Kawkareik) ก่อนเข้าสู่เมืองพะอัน (Hpa-An) |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร ในเมืองพะอัน รัฐกะเหรี่ยง |
บ่าย | นำท่านชม ถ้ำซาดาน (Sadan Cave) เป็นถ้ำที่มีความงดงามทางธรรมชาติ มีตำนานเกี่ยวกับพญาช้างที่เคยปกครองช้างบริวารอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ตามผนังถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามและมีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้มากมาย เช่น พระพุทธรูปหยก พระพุทธรูปปางไสยาสน์ และพระพุทธรูปอุ้มบาตรเป็นต้น ส่วนตามผนังของถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานไว้เช่นกัน จากนั้นนำถ่านชม ถ้ำก๊อกกาต่าว (Kaw Ka Thawng Cave) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนพะอัน ตามริมผนังของถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ คล้ายกับพระเครื่องบ้านเราประดับบูชาอยู่ เป็นจำนวนนับพันองค์ มีทั้งพระที่นำมาติดไว้ที่ผนังถ้ำ และพระที่แกะสลักขึ้นจากผนังถ้ำ ซึ่งมีความงดงามโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง และบริเวณใกล้กันนั้นก็มีสระน้ำผุดที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ จากนั้นเดินทางสู่ เจดีย์จ๊อกกะแล็ต (Kyauk Kalat) ซึ่งเป็นเจดีย์มีชื่อเสียงที่สุดของพะอัน ตั้งอยู่บนเขาแหลมเหมือนเขาตะปูของไทยที่พังงา โดดเด่นอยู่บนเกาะกลางน้ำ มีสะพานปูนเชื่อมต่อกับวัดและมีบันใดทอดยาวขึ้นไปถึงยอดเขา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนขึ้นไปกราบไหว้เจดีย์ ทำบุญ และขอพรจากหลวงพ่อพร้อมชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามซึ่งสามารถมองเห็นเทือกเขาเซกาบินได้อย่างชัดเจน เราสามารถขึ้นไปได้แค่ชั้นสองเท่านั้น ส่วนชั้นสามซึ่งเป็นยอดบนสุดและมีเจดีย์สีทองตั้งอยู่นั้นไม่สามารถขึ้นไปถึงได้เนื่องจากอันตราย นำท่านออกเดินทางสู่ ถ้ำเกากูน (Kawgun Cave) เป็นถ้ำหินปูนตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเกากูน อยู่ทางด้านเหนือของแม่น้ำสาละวิน ตรงทางเข้าถ้ำ มีพระพุทธรูปปูนปั้นจำนวนมากตั้งเรียงรายและตามผนังถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ทาทับด้วยสีแดงอิฐนับหมื่นองค์ เป็นศิลปะสมัยพุกาม ประมาณศตวรรษที่ 7 ตรงปากถ้ำจะมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ชื่อว่า ‘อาจวยเหจ่พญา’ หรือ ‘พระพุทธรูปปลดหนี้’ เชื่อกันว่าใครมีหนี้สินอะไร ก็ให้ขอพรกับท่าน และภายในถ้ำก็มีองค์พระพุทธรูปจำนวนมากประดิษฐานอยู่เช่นกัน เช่น พระพุทธรูปปางไสยาสน์ เป็นต้น |
ค่ำ | บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ร้านอาหาร หลังอาหาร นำท่านเข้าพักโรงแรมในเมืองพะอัน พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่สอง: มะละแหม่ง – เจดีย์ชเวยินเหม่ว – ไจท์มอยอ – พระนอนวินเส่งตอยะ (ใหญ่ที่สุดในโลก) โบสท์ St. Patrick’s – ไจท์ตะลาน – พระพุทธรูปจำลองมหามุนี | |
---|---|
07.00 น. | มิงกาลาบ่า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม ทะเลสาบกันตายาร์ (Kan Thar Yar Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองพะอัน มีความสวยงามโรแมนติกเป็นอย่างมาก มีสะพานเชื่อมทั้งสองฝั่งของทะเลสาบ ตรงกลางทะเลสาบมีศาลาหลังคาซ้อนกันเป็นชั้นตั้งโดดเด่นสวยงาม ส่วนฉากหลังนั้นก็เป็นเทือกเขาเซกาบิน ยิ่งเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าจะช่วยแต้มแต่งให้ภาพทะเลสาบแห่งนี้สวยงามมากยิ่งขึ้น |
08.00 น. | ชมและนมัสการ เจดีย์ชเวยินเหม่ว (Shwe Yinh Myaw) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวินที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำของชาวพะอันที่เรียบง่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมะละแหม่งหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘เมาะลำไย’ |
10.00 น. | เดินทางถึง เมืองมะละแหม่ง เมืองหลวงของรัฐมอญ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศพม่า และตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำใหญ่สามสายได้แก่สาละวิน (Thanlwin) แม่น้ำไจ (Kyaik) และแม่น้ำอัตตรัน (Attran) จากนั้นนำท่านไปนมัสการ เจดีย์ไจท์มอยอ (Kyaikmaraw) ตั้งอยู่ที่เมืองไจท์มอยอ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองมะละแหม่ง อยู่ห่างจากเมืองมะละแหม่ง 24 กิโลเมตร มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘ซูตองปิ พะยาจี ไจท์มอยอ’ ประดิษฐานพระพุทธรูปห้อยขาพระพักตร์สีขาวที่โดดเด่นและแตกต่างจากพระพุทธรูปองค์ อื่นๆ ในเมืองมะละแหม่ง ลักษณะการนั่งนั้นเป็นแบบทางตะวันตกสร้างโดยพระนางฉิ่นสอพู (Shin Saw Pu) ในปี พ.ศ. 1998 (ค.ศ.1455) พระนางเป็นกษัตริย์หญิงแห่งอาณาจักรมอญเพียงพระองค์เดียวที่ปกครองชาวมอญ เป็นเวลา 17 ปี และภายในพระพุทธรูปมีการบรรจุพระสาริกธาตุของพระพุทธเจ้าด้วย บริเวณโดยรอบ พระประธาน มีพระพุทธรูปปางต่างๆ มากมาย และเล่ากันว่าชาวบ้านเคยนำโซ่มาล่ามองค์พระไว้เพราะครั้งหนึ่งเคยหนีหายไป นอกจากนั้นวัดไจท์มอยอยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับฝีมืองานกระเบื้องเคลือบที่สวยงามอีกด้วย และในอาคารที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันนักก็มีไข่พญานาคที่แข็งเป็นหินเก็บรักษาไว้ในตู้ ซึ่งมีการขุดพบตอนที่สร้างเจดีย์แห่งนี้ จากนั้นนำท่านชม โบสถ์ St. Patrick’s ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองมะละแหม่งและเป็นโรงเรียน ที่เจ้าน้อยศุขเกษมเคยมาเล่าเรียนศึกษาก่อนจะพบรักกับสาวแม่ค้าชาวพม่านามมะเมี๊ยะจนเกิดเป็นตำนานรักและจรัล มโนเพชร ก็นำมาแต่งเป็นบทเพลงขับร้องจนโด่งดังไปทั่ว หลังจากนั้นนำคณะฯ ชมเมืองมะละแหม่ง ผ่านอาคารเก่าแก่สไตล์โคโลเนียล ตลาด และโบสถ์ เป็นต้น |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่ เมืองมูเดิง (Mudon) ซึ่งห่างจากเมืองมะละแหม่งไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตรเพื่อชมความอลังการของ วัดพระนอนวินเส่งตอยะ (Win Sein Taw Ya Reclining Buddha) ถือเป็นวัดพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก องค์พระนอนมีความยาว 180 เมตร และสูง 30 เมตร ภายในแบ่งเป็นชั้นๆ ถึง 8 ชั้นแต่ละชั้นมีห้องต่างๆ ที่ประกอบด้วยรูปปูนปั้นแสดงเรื่องราว ชาดก 10 ชาติ พุทธประวัติ และคำสอนต่างๆ ในพุทธศาสนาเช่น เรื่องนรกสวรรค์และผลแห่งกรรม เป็นต้น วัดแห่งนี้สร้างโดยหลวงพ่ออูชินะ (U Zina) โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ และในปี ค.ศ. 2012 ก็มีการสร้างพระนอนองค์ใหม่ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระนอนวินเส่งตอยะขึ้นมาอีกองค์หนึ่งแต่ก็ยังสร้างไม่เสร็จ นำท่านช้อปปิ้งที่ห้าง Ocean Super Center ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของเมืองมะละแหม่งและรัฐมอญ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2016 ให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตสมัยใหม่ของคนพม่าตอนใต้ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว |
เย็น | ชมและสักการะ เจดีย์ไจ๊ท์ตาลาน (Kyaikthanlan) สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งรัฐมอญสร้างขึ้นในปี พ.ศ.1418 เป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุและพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า ตามตำนานเล่าว่าเดิมเจดีย์นี้ชื่อ ‘เจดีย์ไจ๊ท์ชานลาน’ แปลว่า ‘เจดีย์สยามพ่าย’ เนื่องมาจากในครั้งที่สยามไปตีพม่าแล้วเกิดท้าทายให้สร้างเจดีย์แข่งกัน พม่าใช้โครงไม้ไผ่หุ้มผ้าขาวหลอกทหารไทยจนทหารไทยพ่ายแพ้ต้องถอยทัพกลับเมืองไทย เจดีย์ที่กองทัพไทยสร้างค้างเอาไว้แค่ครึ่งองค์นั้น ต่อมาพม่าได้กลับมาบูรณะจนเสร็จสมบูรณ์เหมือนในปัจจุบัน และนมัสการ พระพุทธรูปจำลองมหามุนี (The Replica of Maha Muni Paya) ได้รับอิทธิพลมาจากองค์พระพุทธรูปมหามัยมุนีที่เมืองมัณฑะเลย์ ประดิษฐานอยู่ที่วัด ‘มหาเมี๊ยะมุนีพยาจี’ |
19.00 น. | บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร นำคณะเข้ากลับสู่ที่พักโรงแรม |
วันที่สาม: มะละแหม่ง – ตันบูซายัด – ไจท์คามิ – ทวาย | |
---|---|
06.30 น. | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
07:30 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองตันบูซายัด หรือที่รู้จักกันในยุคอาณานิคมอังกฤษว่า อัมเฮิร์ส (Amherst) ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศและศูนย์มิชชั่นนารีของอังกฤษในยุคอาณานิคม นำท่านชมและสักการะ เจดีย์ไจท์คามิ เหย่แลพญา (Kyaikkami Yele Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ในน้ำแห่งที่สองของ พม่า องค์แรกนั้นอยู่ที่เมืองสิเรียมและมีตำนานเกี่ยวพันกับวัดเจดีย์ชินโมทิพะยาที่เมืองทวาย พระประธานของเจดีย์นั้นทำจากปูนผสมกับชิ้นส่วนของไม้ศรีมหาโพธิ์ ต้นที่พระองค์ทรงประทับบำเพ็ญเพียรอยู่จนตรัสรู้กล่าวกันว่ามี 4 องค์ มีผู้นำมาประดิษฐานบนแพลอยมาจากลังกา องค์หนึ่งลอยมาที่ เมืองพะสิม (Pathein) องค์หนึ่งมาที่เมืองไจท์คามิ องค์หนึ่งมาที่เมืองไจท์โท (Kyaikto) ส่วนอีกองค์หนึ่งลอยมาถึงเมืองทวาย สมควรแก่เวลา นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway) ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากแรงงานของกรรมกร และเชลยศึกที่ควบคุมโดยกองทัพญี่ปุ่นระหว่างปี 2485 - 2486 เพื่อเป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกำลังพล จากไทยไปยังพม่า และถูกฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดทำลายลงในปี 2488 เชลยศึกกว่า 13,000 คน ที่ถูกเกณฑ์ไปสร้างทางรถไฟความยาว 415 กม. ตลอดระยะเวลา 15 เดือน ต้องเสียชีวิตลงเพราะทารุณกรรมขาดอาหารและโรคภัยไข้เจ็บ ผ่านป่าหนาทึบและภูเขาคาดว่ายังมีพลเรือนชาวเอเชียที่ถูกบังคับใช้แรงงานอีกราว 80,000- 100,000 คน เสียชีวิตลงในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร |
13:00 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองทวาย ผ่านเมืองเย (รัฐมอญ) และเข้าสู่เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Division) เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพสองข้างทางที่ยังคงความเป็นชนบทไว้อย่างมาก เดินทางถึง เมืองกะเลอ่อง (Kaleinaung) นำท่านขึ้นไปสักการะ เจดีย์กะเลอ่องซานดอฉิ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 9 เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทวายที่เรียกกันว่า ‘ชินโกชิน’ เจดีย์แห่งนี้ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าในอดีตสี่พระองค์ ร่ำลือกันว่าเวลามีงานทำบุญประจำปีทุกเดือนมีนาคมจะมีแสงฉัพพรรณรังสี (สีที่แผ่ออกจากพระวรกายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มี 6 สี) ปรากฏให้เห็นทุกปี และบนยอดเจดีย์นั้นบรรจุแก้วแหวนเงินทองและเพชรนิลจินดามีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 33 กิโลกรัมกับ 2 ขีด บนเจดีย์แห่งนี้ท่านสามารถชมทัศนียภาพของเมืองกะเลอ่องที่สวยงาม มองเห็นแม่น้ำทวายที่ไหลเลี้ยวเคี้ยวคดอยู่เบื้องล่างและผืนป่าตะนาวศรีอันอุดมสมบูรณ์ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองทวาย |
เย็น | เดินทางถึงเมืองทวาย นำท่านเช็คอินเข้าที่พักในเมืองทวาย |
ค่ำ | บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร ในเมืองทวาย จากนั้นนำท่านกลับสู่ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่สี่: เจดีย์ชเวตองจา – ตลาดร้อยปี – ทวาย – ด่านพุน้ำร้อน | |
---|---|
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. | เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเพื่อนำท่านไปสักการะ เจดีย์ชเวตองจา (ShweTaungSarZedi) ซึ่งมีองค์พระเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทวายภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปโลกะมารชินปางมารวิชัย อายุ 141 ปีในช่วงปีพ.ศ. 2417 มีกลุ่มผู้เผยแผ่ศาสนาชาวทวายเดินทางไปเมืองมัณฑะเลย์เพื่อขอพระราชทานพระพุทธรูปจากพระเจ้ามินดงเพื่อนำมาประดิษฐานที่เมืองทวาย พระเจ้ามินดงจึงพระราชทานพระพุทธรูปทองเหลืองเก่าแก่องค์นี้ให้ วัดนี้ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2304 มีอายุมากกว่า 250 ปี จากนั้นนำท่านไปช้อปปิ้งซื้อของฝาก ณ ตลาดร้อยปี หรือ ตลาดเซจี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ตั้งแต่ยุคสมัยอาณานิคมอังกฤษ ให้ทุกท่านอิสระในการเดินช็อปปิ้งพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวทวายและบรรยากาศของตลาดที่ยังคงความเป็นอดีตไว้อย่างมาก ภาพวิถีชีวิตเหล่านี้คงจะหมดไปในอีกไม่นานเพราะการพัฒนาที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ ก่อนเดินทางกลับด่านบ้านพุน้ำร้อน |
10.00 น. | เดินทางออกจากเมืองทวาย เพื่อกลับสู่ด่านบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร |
บ่าย | เดินทางถึงด่านบ้านพุน้ำร้อน นำท่านผ่านพิธีการผ่านแดนออกจากพม่า เข้าสู่ประเทศไทย ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพและประทับใจ |
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนกันได้ตามความเหมาะสม โดยอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าทัวร์และผู้ประสานงานท้องถิ่นในครั้งนั้น ๆ โดยจะยึดถือประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ และขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ปัจจุบัน
ภาพแกลลอรี่ | ||
---|---|---|