ตรีทวายทัวร์

แม่สอด พระธาตุอินแขวน หงสาวดี ย่างกุ้ง มะละแหม่ง พะอัน 6 คืน 7 วัน

เที่ยวรัฐมอญ ตะลอนรัฐกะเหรี่ยง นมัสการพระธาตุอินแขวน ท่องดินแดนอารยะธรรมพันปี


จากชายแดนแม่สอด มุ่งหน้าสู่พระธาตุอินแขวน ขึ้นไปสัมผัสกลิ่นไอแห่งความศรัทธาและน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติบนยอดเขาอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุอินแขวน ก่อนท่องไปในดินแดนอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ของมอญ ณ เมืองหงสาวดี และนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่า ณ มหานครย่างกุ้ง แล้วเที่ยวไปในรัฐมอญและตะลอนรัฐกะเหรี่ยง เต็มสุขตลอดทริปกับมหัศจรรย์ของการเดินทางสู่ดินแดนอารยะธรรมพันปี...

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์ คลิก..

โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก ด่านแม่สอด – เมียวดี – พระธาตุอินแขวน
8:00 น. คณะพร้อมกันที่ ด่านแม่สอด หลังจากตรวจเอกสารผ่านแดนแล้ว นำท่านออกเดินทางไปตามถนนเส้นใหม่ที่ตัดหลบภูเขาดาวนา (Dawna Range) หรือเรียกกันว่า ‘ทิวเขาดอยมอนกุจู’ ที่มีความยาวประมาณ 38 กิโลเมตรซึ่งเชื่อมต่อไปยังเมืองกอกะเร็ก (Kawkareik) ก่อนเข้าสู่เมืองพะอัน (Hpa-An)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย เดินทางถึงเมืองไจท์โถ่หรือสะเทิม ก่อนเดินทางสู่ คิมปูนแคมป์ (เชิงเขาไจท์ทีโย) เปลี่ยนขึ้นรถท้องถิ่นนำท่านขึ้นสู่พระธาตุอินแขวนบนยอดเขาเปาเลา ชมทัศนียภาพป่าเขา น้ำตก และลำธารอันสวยงามสองข้างทาง สัมผัสถึงความเย็นซึ่งจะค่อยๆ เย็นขึ้นเรื่อยๆ เดินทางจนเกือบถึงพระธาตุอินแขวน ชมทะเลหมอกแห่งขุนเขา ตื่นตาตื่นใจกับพระธาตุอินแขวนซึ่งอยู่ใกล้ที่พัก ใช้เวลาเดินทางสบายๆ สายลมเย็นนำพาความสดชื่นให้รู้สึกสบายๆ นำท่านนมัสการ พระธาตุอินแขวน ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทองหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่าและเป็นแรงบันดาลใจของกวีซีไรท์ คุณมาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรมเรื่อง ‘นิราศเจ้าจันทร์ผมหอม’ นำท่านเช็คอินที่ โรงแรม Kyaikhto Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังจากนั้น เชิญท่านไปนมัสการพระธาตุตามอัธยาศัย ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะนมัสการกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจท์ทีโย ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือกันลมหรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ และเบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษ ปิดเวลา 20:00 น.
วันที่สอง วัดไจท์ปอลอ – หงสาวดี – พระธาตุมุเตา – พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว – ย่างกุ้ง - สุสานสงครามเทาเกียน – พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
05.00 น. เชิญท่านนมัสการพระธาตุอินแขวน ใส่บาตรพระสงฆ์ นมัสการพระธาตุอินแขวนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายรูป และชมทัศนียภาพรอบๆ พระธาตุ
06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางลงจากเขาไจท์ทีโย ออกเดินทางสู่วัดไจท์ปอลอ
08:30 น. เดินทางถึง วัดไจท์ปอลอ (Kyaikpawlaw) หรือ ‘พระไฝเลื่อน’ มีประวัติพระพุทธรูปลอยน้ำมา จากลังกาและมีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปิดทององค์พระทั้งองค์ แต่มีจุดหนึ่งตรงหางคิ้ว เหมือนไฝเกิดขึ้น จะปิดทองกี่ครั้งก็ยังเกิดเป็นจุดดำๆ อยู่ตลอดเวลา ทางวัดจึงไม่ได้ปิดทองตรงที่ตำแหน่งดังกล่าวอีกเลย จึงเรียกพระองค์นี้กันว่า ‘พระไฝเลื่อน’ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางออกจากเมืองไจท์โถ่ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองหงสาวดี (Bago)
10:30 น. เดินทางถึง เมืองหงสาวดี หรือที่คนพม่าเรียกว่า ‘พะโค’ อดีตราชธานีของมอญที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุด มีอายุมากกว่า 400 ปี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมืองหงสาวดี
13:00 น. หลังอาหาร นำท่านชมและสักการะ เจดีย์ชเวมอดอว์ หรือ พระธาตุมุเตา ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในหงสาวดีและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า นอกจากนั้นยังเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงหงสาวดีมาช้านาน นำท่านสู่จุดอธิษฐานบริเวณที่ยอดเจดีย์หักลงมาคราวเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2460 ชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่มีพลังและศักดิ์สิทธิ์มาก สมควรแก่เวลา นำท่านออกเดินทางสู่ย่างกุ้ง
15:00 น. นำท่านชม สุสานเทาเกียน (Taukkyan War Cemetery หรือ Htauk Kyant WarMemorial Cemetery) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของทหารผ่านศึก สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารฝ่ายเครือจักรภพอังกฤษที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 กว่า 27,000 นาย ซึ่งจำนวนไม่น้อยเป็นทหารอินเดียและทหารแอฟริกัน โดยในบริเวณอนุสรณ์สถาน เป็นหลุมศพของทหาร แบ่งเป็นทหารที่เสียชีวิตในสงครามครั้งที่ 1 จำนวน 52 นาย และสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2จำนวน 6,374 นาย ระบุตัวตนไม่ได้ จำนวน 867 นาย และมีการสลักชื่อทหารกว่า 27,000 นายที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พม่า จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ นครย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงเก่าของพม่าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนี้
18:00 น. บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร นมัสการ เจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่า อายุสองพันห้าร้อยกว่าปีและเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อนมหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่เป็นน้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม ยอดฉัตรประดับด้วยเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่ากว่า 5,548 เม็ด รวมทับทิมขนาดเท่าไข่ไก่ กล่าวกันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์องค์นี้มีจำนวนมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารแห่งชาติอังกฤษเสียอีกและนับเป็นมหาเจดีย์ที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไปเช่น สีเหลือง สีน้ำเงิน สีส้ม และสีแดง เป็นต้น
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านกลับเข้าที่พัก โรงแรม Clover Hotel หรือเทียบเท่าและพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม ย่างกุ้ง – เจดีย์โบตะทาวน์ – เทพทันใจ – เทพกระซิบ – ตลาดสก็อต - วัดพระนอนตาหวาน – เจดีย์กาบาเอ้ – วัดพระหินอ่อน – ปางช้างเผือก
07.00 น. มิงกะลาบ่ายามเช้า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. นำท่านนมัสการ พระเจดีย์โบตะทาวน์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่นำไปบรรจุในพระเจดีย์ชเวดากอง เมื่อพระเกศาธาตุได้ ถูกอัญเชิญขึ้นจากเรือ ได้นำมาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์โบตะทาวน์แห่งนี้ก่อนพระเจดีย์แห่งนี้ได้ถูกทำลายในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ โดยมีความแตกต่างกับพระเจดีย์ทั่วไปคือ ออกแบบให้ใต้ฐานพระเจดีย์มีโครงสร้างโปร่งให้คนเดินเข้าไปภายในได้ โดยอัญเชิญพระบรมธาตุไว้ในผอบทองคำให้ผู้คนได้เข้ามากราบไหว้มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนผนังใต้ฐานเจดีย์ ได้นำทองคำและของมีค่าต่าง ๆ ที่มีพุทธศาสนิกชนชาวพม่านำมาถวายแก่องค์พระเจดีย์ มาจัดแสดงไว้ จากนั้นนำท่านสักการะขอพรจาก “เทพทันใจ” (นัตโบโบยี) ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนา และสักการะ เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย เพื่อหนุนดวงโชคลาภ มหาโภคทรัพย์ สมควรแก่เวลา นำท่านช้อปปิ้งที่ ตลาดสก็อต ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของพม่า มีสินค้าของที่ระลึกมากมาย อาทิ อัญมณี ทับทิม ไพลิน หยก ไข่มุก เครื่องเงิน เครื่องหวาย งานฝีมือ เช่น ผ้าปูโต๊ะ และผ้าโสร่ง เป็นต้น
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดของประเทศพม่า จากนั้นนำท่านนมัสการ เจดีย์กาบาเอ้ เป็นเจดีย์ทรงกลม ซึ่งมีทางเข้าทั้งหมดห้าด้าน ที่นายอูนุนายกคนแรกของพม่า สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎก เป็นที่แปลกตาอีกแห่งหนึ่ง และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านใน คำว่ากาบาเอ ในภาษาพม่า หมายถึง โลกแห่งสันติสุข สร้างขึ้นในปี 1952 เจดีย์แห่งนี้เป็นที่รำลึกถึงการประชุมประสภาสงฆ์ระดับโลก ครั้งที่ 6 เพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่ชาวโลกของพุทธศาสนา ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในปี 1954 จากนั้นนำท่านนมัสการ พระหินอ่อน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่าที่ วัดเจ๊าตอจี และนำท่านชม ช้างเผือก ที่ปางช้างเผือก ซึ่งถือว่าเป็นช้างที่หาชมได้ยากที่สุดในเอเชีย ซึ่งคนพม่าเองต่างนิยมมาชมช้างเผือกกันอย่างมากมาย
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหาร หลังอาหาร นำท่านกลับเข้าที่และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ ย่างกุ้ง – หงสาวดี – วัดพระนอนยิ้มหวาน - พระราชวังบุเรงนอง – มะละแหม่ง
07.00 น. มิงกะลาบ่ายามเช้า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. นำท่านเดินทางออกจากย่างกุ้งสู่ เมืองหงสาวดีหรือพะโค หลังจากเดินทางถึงเมืองหงสาวดี นำ ท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว หรือพระนอนยิ้มหวาน กราบพระพุทธรูปนอนที่มี พุทธลักษณะงดงามในแบบของมอญ จัดเป็นพระนอนที่งามอีกแห่งหนึ่งของประเทศพม่า
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมืองหงสาวดี
บ่าย นำท่านเข้าชม พระราชวังบุเรงนอง สถานที่ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของไทย คือ บริเวณที่เคยเป็นพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ 2109 แต่ได้ถูกทำลายด้วยฝีมือของพวกยะไข่กับตองอูในสมัยพระเจ้านันนทบุเรงในปี พ.ศ. 2142 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของ พระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกเมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดารเท่านั้น สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางออกจากเมืองหงสาวดีเพื่อเดินทางไปเมืองมะละแหม่งต่อไป
18:00 น. เดินทางถึง เมืองมะละแหม่ง เมืองหลวงของรัฐมอญ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศพม่าและ ตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำใหญ่สามสายได้แก่สาละวิน (Thanlwin) แม่น้ำไจ (Kyaik) และแม่น้ำอัตตรัน (Attran)
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังอาหารให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย (พักที่ โรงแรม Ngyo Moe Hotel หรือระดับเดียวกัน)
วันที่ห้า ตลาดเซจี – เจดีย์ไจท์ตะลาน – มหามุนี – โบสถ์ St. Patrick’s – วัดพระนอนวินเส่งตอยะ เจดีย์ไจท์คามิ
07.00 น. มิงกะลาบ่ายามเช้า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. นำท่านไปช้อปปิ้งซื้อของที่ ตลาดเซจี หรือตลาดใหญ่ของเมืองมะละแหม่ง ซึ่งมีการปรับปรุงตัวอาคารขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 2009 หลังจากเกิดไฟไหม้ตลาดครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2008 ตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางค้าขายขนาดใหญ่ของเมืองมะละแหม่ง มีทั้งของสดและของแห้งจำหน่ายมากมายให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
09:30 น. จากนั้นนำท่านไปนมัสการ เจดีย์ไจ๊ตาลาน (Kyaikthanlan) ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองมะละแหม่งได้ 360 องศาที่สวยงาม เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1418 เป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุและพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า ตามตำนานเล่าว่าเดิมเจดีย์นี้ชื่อ ‘เจดีย์ไจ๊ชานลาน’ แปลว่า ‘เจดีย์สยามพ่าย’ เนื่องมาจากในครั้งที่สยามไปตีพม่าแล้วเกิดท้าทายให้สร้างเจดีย์แข่งกัน พม่าใช้โครงไม้ไผ่หุ้มผ้าขาวหลอกทหารไทยจนทหารไทยพ่ายแพ้ต้องถอยทัพกลับเมืองไทย เจดีย์ที่กองทัพไทยสร้างค้างเอาไว้แค่ครึ่งองค์นั้นต่อมาพม่าได้กลับมาบูรณะจนเสร็จสมบูรณ์เหมือนในปัจจุบัน จากนั้นนำท่านนมัสการ พระมหามุนี ที่วัด ยาดานา บอน มิ้นท์ หรือที่ชาวมะละแหม่งเรียกว่า ‘วัดเส่งด่ง’ (Sein Don) เพราะเคยเป็นที่ประทับของพระนาง Sein Don Mibaya-gyi หนึ่งในพระมเหสีของพระเจ้ามินดง กษัตริย์พม่าแห่งมัณฑะเลย์ พระนางมีพระราชหฤทัยระลึกถึงพระพุทธรูปมหามุนีที่เมืองมัณฑะเลย์จึงรับสั่งให้สร้างองค์จำลองขึ้นในปี ค.ศ. 1904 ที่วัดแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในงานแกะสลักไม้อย่างสวยงามเหมือนพระตำหนักที่เมืองมัณฑะเลย์โดยเฉพาะอาสนบัลลังก์ที่แกะสลักไม้และเครื่องประดับอย่างสวยงาม จากนั้นนำท่านชม โบสถ์ St. Patrick’s ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองมะละแหม่งและเป็นโรงเรียนที่เจ้าน้อยศุขเกษมเคยมาเล่าเรียนศึกษาก่อนจะพบรักกับสาวแม่ค้าชาวพม่านามมะเมี๊ยะจนเกิดเป็นตำนานรักและจรัล มโนเพชร ก็นำมาแต่งเป็นบทเพลงขับร้องจนโด่งดังไปทั่ว หลังจากนั้นนำคณะฯ ชมเมืองมะละแหม่ง ผ่านอาคารเก่าแก่สไตล์โคโลเนียล ตลาด และโบสถ์ เป็นต้น
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมืองมะละแหม่ง
บ่าย ออกเดินทางสู่เมือง มูเดิง (Mudon) เพื่อชมและสักการะ องค์พระพุทธไสยาสน์วินเส่งตอยะ (Win Sein Taw Ya) ซึ่งเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก องค์พระนอนมีความยาว 180 เมตร ความสูงราวตึก 5 ชั้นหรือสูงประมาณ 110 ฟุต ภายในแบ่งเป็นชั้นๆ ถึง 8 ชั้นแต่ละชั้นมีห้องต่างๆ ที่ประกอบด้วยรูปปูนปั้นแสดงถึงพุทธประวัติ และคำสอนต่างๆ ในพุทธศาสนาเช่นเรื่องนรกสวรรค์และผลแห่งกรรม จากนั้นนำท่านไป วัดไจท์คามิ เหย่แลพญา (Kyaikkami Yele Pagoda)ซึ่งประดิษฐานพระเจดีย์กลางทะเลถือเป็นเจดีย์ในน้ำแห่งที่สองของพม่า ซึ่งแห่งแรกนั้นอยู่ที่เมืองสิเรียมและมีตำนานเกี่ยวพันกับวัดเจดีย์ชินโมทิพะยาที่เมืองทวาย องค์พระประธานของเจดีย์นั้นทำจากปูนผสมกับชิ้นส่วนของไม้ศรีมหาโพธิ์ ต้นที่พระองค์ทรงประทับบำเพ็ญเพียรอยู่จนตรัสรู้กล่าวกันว่ามี 4 องค์ มีผู้นำมาประดิษฐานบนแพลอยมาจากลังกา องค์หนึ่งลอยมาที่ เมืองพะสิม(Pathein) องค์หนึ่งมาที่เมืองไจท์คามิ องค์หนึ่งมาที่ เมืองไจท์โท (Kyaikto) ส่วนอีกองค์หนึ่งลอยมาถึงเมืองทวาย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับมะละแหม่ง
เย็น บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังอาหารให้นำท่านกลับสู่ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันหก มะละแหม่ง – ไจท์มอยอ – พะอัน - ถ้ำกอลกาตอง – ถ้ำกอลอน – เทือกเขาเซกาบิน
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเพื่อนำท่านเดินทางไปนมัสการ เจดีย์ไจท์มอยอ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองมะละแหม่ง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรุปนั่งห้อยพระบาทปางประทานพร วัดนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับฝีมืองานกระเบื้องเคลือบที่สวยงามอีกด้วย เจดีย์ไจท์มอยอ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นโดย สมเด็จพระราชินี Shin Saw Pu ใน 1455 ในช่วงปลาย สมเด็จพระราชินี Shin Saw Pu เป็น สมเด็จพระราชินี รู้จักกันดีว่าทรงทุ่มเทและบริจาคทองถวายเจดีย์ชเวดากอง Shwedagon Pagoda จำนวนมาก สมควรแก่เวลา นำท่านเดินออกจากเมืองมะละแหม่งเพื่อ เดินทางต่อไปเมืองพะอัน
11:00 น. เดินทางถึงเมือง พะอัน (Hpa-An) เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ล้อมรอบไปด้วยเขาหินปูน สูง สลับซับซ้อน มีความงดงามที่หลากหลายทั้งธรรมชาติและอารยธรรมที่เก่าแก่ นำท่านเช็คอินที่โรงแรม Thiri Hpa An Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมใหม่ของเมืองพะอัน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม ถ้ำกอลกาตอง (Kaw Ka Thawng Cave) ซึ่งเป็นที่นิยมของคนพื้นเมือง ระหว่างทางท่านจะได้เห็นสระน้ำอุ่นที่คนทั่วไปสามารถลงไปเล่นน้ำได้ เดินทางขึ้นสู่เขา ชมถ้ำซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปด้านในและวิวที่สวยงามของเมืองจากด้านบนนี้ ด้านล่างคือหมู่บ้านลัคคานา(Lakkana Village) หลังจากนั้นเดินทางสู่ ถ้ำหมื่นพระหรือถ้ำกอลอน (Kaw Gone Cave) ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 116 ฟุตและอยู่ด้านเหนือของแม่น้ำสาละวิน ระหว่างทางท่านจะเห็นพระพุทธรูปด้านข้างของหน้าผาซึ่งเป็นพระพุทธรูปในสมัยพุกาม ประมาณคริสตวรรษที่ 13จำนวนมาก ให้ท่านได้นมัสการพระต่างๆ และชมความอลังการของพระพุทธรูปที่ติดอยู่ตามผนังถ้ำจำนวนมาก นับหมื่นองค์ และแท่งหินแกะสลักโบราณ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขาเซกาบิน (Mt. Zwegabin) ที่เป็นภูเขาหินปูนที่สวยงาม อยู่ทางตอนใต้ของเมืองพะอันประมาณ 7 ไมล์
เย็น บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังอาหารให้นำท่านกลับสู่ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่เจ็ด พะอัน – เจดีย์จ๊อกกะแล็ต – เมียวดี – แม่สอด
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเพื่อเดินทางกลับสู่แม่สอด ก่อนอำลาเมืองพะอัน นำท่านชม เจดีย์จ๊อกกะแล็ต (Kyauk Kalat) ที่มีชื่อเสียงที่สุดของพะอัน ตั้งอยู่บนเขาแหลมเหมือน เขาตะปูของไทย โดดเด่นอยู่บนเกาะกลางน้ำ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาพระธรรม จากนั้นนำ ท่านเดินทางกลับสู่เมียวดี – แม่สอด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอหาร จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการผ่านแดนออกจากพม่า เข้าสู่ประเทศไทย ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพและประทับใจ



รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนกันได้ตามความเหมาะสม โดยอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าทัวร์และผู้ประสานงานท้องถิ่นในครั้งนั้น ๆ โดยจะยึดถือประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ และขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ปัจจุบัน



สอบถามรายละเอียด..คลิก

FIND US ON:
About Southern Myanmar
Sothern Myanmar is a newly open tourist destination and still very much undiscovered by foreign tourists. The key tourist attractions are stunning, untouched white sandy beaches along Myanmar’s southern coastline including the pristine Murgui Archipelago and other eye-catching natural attractions. Highlights of Southern Myanmar also include Golden Rock Pagoda, the World War II cemetery and “Death Railway”, and the world’s largest reclining Buddha. The areas cover Mon State, Karen State, and Tanintharyi Division. Over the past 50 years, Southern Myanmar has been locked off to outside world; foreign travelers were restricted to flying in and out of Dawei, Myeik and Kawthaung. Until late in 2013 the travel restrictions were relaxed, and it’s now possible to travel as far south as Myeik overland... Read More >>