ตรีทวายทัวร์

แม่สอด พระธาตุอินแขวน หงสาวดี ย่างกุ้ง มะละแหม่ง พะอัน 6 วัน 5 คืน

เที่ยวรัฐมอญ ตะลอนรัฐกะเหรี่ยง นมัสการพระธาตุอินแขวน ท่องดินแดนอารยะธรรมพันปี


จากชายแดนแม่สอด มุ่งหน้าสู่พระธาตุอินแขวน ขึ้นไปสัมผัสกลิ่นไอแห่งความศรัทธาและน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติบนยอดเขาอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุอินแขวน ก่อนท่องไปในดินแดนอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ของมอญ ณ เมืองหงสาวดี และนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่า ณ มหานครย่างกุ้ง แล้วเที่ยวไปในรัฐมอญและตะลอนรัฐกะเหรี่ยง เต็มสุขตลอดทริปกับมหัศจรรย์ของการเดินทางสู่ดินแดนอารยะธรรมพันปี...

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์ คลิก..

โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก ด่านแม่สอด – เมียวดี – พระธาตุอินแขวน
8:00 น. คณะพร้อมกันที่ ด่านแม่สอด หลังจากตรวจเอกสารผ่านแดนแล้ว นำท่านออกเดินทางไปตามถนนเส้นใหม่ที่ตัดหลบภูเขาดาวนา (Dawna Range) หรือเรียกกันว่า ‘ทิวเขาดอยมอนกุจู’ ที่มีความยาวประมาณ 38 กิโลเมตรซึ่งเชื่อมต่อไปยังเมืองกอกะเร็ก (Kawkareik) ก่อนเข้าสู่เมืองพะอัน (Hpa-An)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย เดินทางถึงเมืองไจท์โถ่หรือสะเทิม ก่อนเดินทางสู่ คิมปูนแคมป์ (เชิงเขาไจท์ทีโย) เปลี่ยนขึ้นรถท้องถิ่นนำท่านขึ้นสู่พระธาตุอินแขวนบนยอดเขาเปาเลา ชมทัศนียภาพป่าเขา น้ำตก และลำธารอันสวยงามสองข้างทาง สัมผัสถึงความเย็นซึ่งจะค่อยๆ เย็นขึ้นเรื่อยๆ เดินทางจนเกือบถึงพระธาตุอินแขวน ชมทะเลหมอกแห่งขุนเขา ตื่นตาตื่นใจกับพระธาตุอินแขวนซึ่งอยู่ใกล้ที่พัก ใช้เวลาเดินทางสบายๆ สายลมเย็นนำพาความสดชื่นให้รู้สึกสบายๆ นำท่านนมัสการ พระธาตุอินแขวน ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทองหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่าและเป็นแรงบันดาลใจของกวีซีไรท์ คุณมาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรมเรื่อง ‘นิราศเจ้าจันทร์ผมหอม’ นำท่านเช็คอินที่ โรงแรม Kyaikhto Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังจากนั้น เชิญท่านไปนมัสการพระธาตุตามอัธยาศัย ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะนมัสการกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจท์ทีโย ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือกันลมหรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ และเบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษ ปิดเวลา 20:00 น.
วันที่สอง หงสาวดี – ไจท์ปอลอ – พระธาตุมุเตา – ย่างกุ้ง – เจดีย์ชเวดากอง
05.00 น. เชิญท่านนมัสการพระธาตุอินแขวน ใส่บาตรพระสงฆ์ นมัสการพระธาตุอินแขวนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายรูป และชมทัศนียภาพรอบๆ พระธาตุ
06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางลงจากเขาไจท์ทีโย ออกเดินทางสู่วัดไจท์ปอลอ
08:30 น. เดินทางถึง วัดไจท์ปอลอ (Kyaikpawlaw) หรือ ‘พระไฝเลื่อน’ มีประวัติเกี่ยวข้องกับวัดเจดีย์ชินโมทิพญาที่เมืองทวายและวัดไจท์คามิที่เมืองตันบูซายัด ตามประวัติกล่าว่ามีพระพุทธรูปลอยน้ำมาจากลังกาและมีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปิดทององค์พระทั้งองค์ แต่มีจุดหนึ่งตรงหางคิ้วเหมือนไฝเกิดขึ้น จะปิดทองกี่ครั้งก็ยังเกิดเป็นจุดดำๆ อยู่ตลอดเวลา ทางวัดจึงไม่ได้ปิดทองตรงที่ตำแหน่งดังกล่าวอีกเลย จึงเรียกพระองค์นี้กันว่า ‘พระไฝเลื่อน’ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางออกจากเมืองไจท์โถ่ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองหงสาวดี (Bago)
11:30 น. เดินทางถึง เมืองหงสาวดี หรือที่คนพม่าเรียกว่า ‘พะโค’ อดีตราชธานีของมอญที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุด มีอายุมากกว่า 400 ปี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมืองหงสาวดี
13:00 น. หลังอาหาร นำท่านชมและสักการะ เจดีย์ชเวมอดอว์ หรือ พระธาตุมุเตา ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในหงสาวดีและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า นอกจากนั้นยังเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงหงสาวดีมาช้านาน นำท่านสู่จุดอธิษฐานบริเวณที่ยอดเจดีย์หักลงมาคราวเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2460 ชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่มีพลังและศักดิ์สิทธิ์มาก สมควรแก่เวลา นำท่านออกเดินทางสู่ย่างกุ้ง
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร นมัสการ เจดีย์ชเวดากอง ซึ่งเปรียบเสมือนชีวิตจิตวิญญาณของพุทธศาสนิกชนชาวพม่าตลอดเวลากว่า 2,500 ปี และเป็นพระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่าเป็นพระธาตุประจำปีมะเมียและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า บริเวณเจดีย์ชเวดากองแห่งนี้ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายทั้งชาวพม่าและชาวต่างชาติที่พากันมาเที่ยวชมและนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย โดยกล่าวขานกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไปเช่น สีเหลือง สีน้ำเงิน สีส้ม และสีแดงเป็นต้น
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านกลับเข้าที่พัก โรงแรม Clover Hotel หรือเทียบเท่าและพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม ย่างกุ้ง – เจดีย์โบตะทาวน์ – เทพทันใจ – เทพกระซิบ – ตลาดสก็อต – พระนอนตาหวาน
07.00 น. มิงกะลาบ่ายามเช้า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. นำท่านนมัสการ พระเจดีย์โบตะทาวน์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่นำไปบรรจุในพระเจดีย์ชเวดากอง เมื่อพระเกศาธาตุได้ ถูกอัญเชิญขึ้นจากเรือ ได้นำมาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์โบตะทาวน์แห่งนี้ก่อนพระเจดีย์แห่งนี้ได้ถูกทำลายในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ โดยมีความแตกต่างกับพระเจดีย์ทั่วไปคือ ออกแบบให้ใต้ฐานพระเจดีย์มีโครงสร้างโปร่งให้คนเดินเข้าไปภายในได้ โดยอัญเชิญพระบรมธาตุไว้ในผอบทองคำให้ผู้คนได้เข้ามากราบไหว้มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนผนังใต้ฐานเจดีย์ ได้นำทองคำและของมีค่าต่าง ๆ ที่มีพุทธศาสนิกชนชาวพม่านำมาถวายแก่องค์พระเจดีย์ มาจัดแสดงไว้ จากนั้นนำท่านสักการะขอพรจาก “เทพทันใจ” (นัตโบโบยี) ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนา และสักการะ เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย เพื่อหนุนดวงโชคลาภ มหาโภคทรัพย์ สมควรแก่เวลา นำท่านช้อปปิ้งที่ ตลาดสก็อต ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของพม่า มีสินค้าของที่ระลึกมากมาย อาทิ อัญมณี ทับทิม ไพลิน หยก ไข่มุก เครื่องเงิน เครื่องหวาย งานฝีมือ เช่น ผ้าปูโต๊ะ และผ้าโสร่ง เป็นต้น
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดของประเทศพม่า จากนั้นนำท่านนมัสการ พระหินอ่อน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่าที่ วัดเจ๊าตอจี และนำท่านชม ช้างเผือก ที่ปางช้างเผือก ซึ่งถือว่าเป็นช้างที่หาชมได้ยากที่สุดในเอเชีย ซึ่งคนพม่าเองต่างนิยมมาชมช้างเผือกกันอย่างมากมาย
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านกลับเข้าที่พัก โรงแรม Clover Hotel หรือเทียบเท่าและพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ ย่างกุ้ง – หงสาวดี – วัดพระนอนยิ้มหวาน - พระราชวังบุเรงนอง – มะละแหม่ง
07.00 น. มิงกะลาบ่ายามเช้า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. นำท่านเดินทางออกจากย่างกุ้งสู่ เมืองหงสาวดีหรือพะโค หลังจากเดินทางถึงเมืองหงสาวดี นำ ท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว หรือพระนอนยิ้มหวาน กราบพระพุทธรูปนอนที่มี พุทธลักษณะงดงามในแบบของมอญ จัดเป็นพระนอนที่งามอีกแห่งหนึ่งของประเทศพม่า
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมืองหงสาวดี
บ่าย นำท่านเข้าชม พระราชวังบุเรงนอง สถานที่ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของไทย คือ บริเวณที่เคยเป็นพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ 2109 แต่ได้ถูกทำลายด้วยฝีมือของพวกยะไข่กับตองอูในสมัยพระเจ้านันนทบุเรงในปี พ.ศ. 2142 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของ พระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกเมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดารเท่านั้น สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางออกจากเมืองหงสาวดีเพื่อเดินทางไปเมืองมะละแหม่งต่อไป
18:00 น. เดินทางถึง เมืองมะละแหม่ง เมืองหลวงของรัฐมอญ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศพม่าและ ตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำใหญ่สามสายได้แก่สาละวิน (Thanlwin) แม่น้ำไจ (Kyaik) และแม่น้ำอัตตรัน (Attran)
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังอาหารให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย (พักที่ โรงแรม Ngyo Moe Hotel หรือระดับเดียวกัน)
วันที่ห้า มะละแหม่ง – เจดีย์ไจ๊ท์ตาลาน – เจดีย์ไจ๊ท์มอยอ – พะอัน
07.00 น. มิงกะลาบ่ายามเช้า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. นำท่านชมและสักการะ เจดีย์ไจ๊ท์ตาลาน (Kyaikthanlan) สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งรัฐมอญ สร้างขึ้นในปีพ.ศ.1418 เป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุและพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า ตาม ตำนานเล่าว่าเดิมเจดีย์นี้ชื่อ ‘เจดีย์ไจ๊ท์ชานลาน’ แปลว่า ‘เจดีย์สยามพ่าย’ เนื่องมาจากในครั้ง ที่สยามไปตีพม่าแล้วเกิดท้าทายให้สร้างเจดีย์แข่งกัน พม่าใช้โครงไม้ไผ่หุ้มผ้าขาวหลอกทหาร ไทยจนทหารไทยพ่ายแพ้ต้องถอยทัพกลับเมืองไทย เจดีย์ที่กองทัพไทยสร้างค้างเอาไว้แค่ครึ่ง องค์นั้น ต่อมาพม่าได้กลับมาบูรณะจนเสร็จสมบูรณ์เหมือนในปัจจุบัน และนมัสการ พระพุทธรูปจำลองมหามุนี (The Replica of Maha Muni Paya) ได้รับอิทธิพลมาจากองค์พระพุทธรูป มหามัยมุนีที่เมืองมัณฑะเลย์ ประดิษฐานอยู่ที่ วัด ‘มหาเมี๊ยะมุนีพยาจี’ จากนั้นนำท่านไป นมัสการ เจดีย์ไจ๊ท์มอยอ (Kyaikmaraw) ตั้งอยู่ที่เมืองไจท์มอยอ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองมะละแหม่ง อยู่ห่างจากเมืองมะละแหม่ง 24 กิโลเมตร มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘ซู ตองปิ พะยาจี ไจท์มอยอ’ ประดิษฐานพระพุทธรูปห้อยขาพระพักตร์สีขาวที่โดดเด่นและแตกต่าง จากพระพุทธรูปองค์ อื่นๆ ในเมืองมะละแหม่ง ลักษณะการนั่งนั้นเป็นแบบทางตะวันตกสร้างโดย พระนางฉิ่นสอพู (Shin Saw Pu) ในปี พ.ศ. 1998 (ค.ศ. 1455) พระนางเป็นกษัตริย์หญิงแห่ง อาณาจักรมอญเพียงพระองค์เดียวที่ปกครองชาวมอญ เป็นเวลา 17 ปี และภายในพระพุทธรูปมี การบรรจุพระสาริกธาตุของพระพุทธเจ้าด้วย บริเวณโดยรอบพระประธาน มีพระพุทธรูปปางต่างๆ มากมาย และเล่ากันว่าชาวบ้านเคยนำโซ่มาล่ามองค์พระไว้เพราะครั้งหนึ่งเคยหนีหายไป นอกจากนั้นวัดไจท์มอยอยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับฝีมืองานกระเบื้องเคลือบที่สวยงามอีกด้วย และ ในอาคารที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันนักก็มีไข่พญานาคที่แข็งเป็นหินเก็บรักษาไว้ในตู้ ซึ่งมีการขุดพบตอน ที่สร้างเจดีย์แห่งนี้ 
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองพะอัน (Hpa-An) เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ล้อมรอบไปด้วยเขาหินปูน สูงสลับซับซ้อน มีความงดงามที่หลากหลายทั้งธรรมชาติและอารยธรรมที่เก่าแก่ ภายหลังเดินทางถึงเมืองพะอันแล้ว นำท่านเดินทางไปชม ถ้ำเกากูน (Kawgun Cave) เป็นถ้ำหินปูนตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเกากูน อยู่ทางด้านเหนือของแม่น้ำสาละวิน ตรงทางเข้าถ้ำ มีพระพุทธรูปปูนปั้นจำนวนมากตั้งเรียงรายและตามผนังถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ทาทับด้วยสีแดงอิฐนับหมื่นองค์เป็นศิลปะสมัยพุกามประมาณศตวรรษที่ 7 ตรงปากถ้ำจะมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งชื่อว่า ‘อาจวยเหจ่พญา’ หรือ ‘พระพุทธรูปปลดหนี้’ เชื่อกันว่าใครมีหนี้สินอะไร ก็ให้ขอพรกับท่าน และภายในถ้ำก็มีองค์พระพุทธรูปจำนวนมากประดิษฐานอยู่เช่นกัน เช่น พระพุทธรูปปางไสยาสน์ เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่ เจดีย์จ๊อกกะแล็ต (Kyauk Kalat) ซึ่งเป็นเจดีย์มีชื่อเสียงที่สุดของพะอัน ตั้งอยู่บนเขาแหลมเหมือนเขาตะปูของไทยที่พังงาโดดเด่นอยู่บนเกาะกลางน้ำ มีสะพานปูนเชื่อมต่อกับวัดและมีบันใดทอดยาวขึ้นไปถึงยอดเขาเพื่อให้พุทธศาสนิกชนขึ้นไปกราบไหว้เจดีย์ ทำบุญ และขอพรจากหลวงพ่อพร้อมชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามซึ่งสามารถมองเห็นเทือกเขาเซกาบินได้อย่างชัดเจน เราสามารถขึ้นไปได้แค่ชั้นสองเท่านั้น ส่วนชั้นสามซึ่งเป็นยอดบนสุดและมีเจดีย์สีทองตั้งอยู่นั้นไม่สามารถขึ้นไปถึงได้เนื่องจากอันตราย จากนั้นนำถ่านชม ถ้ำก๊อกกาต่าว (Kaw KaThawng Cave) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนพะอัน ตามริมผนังของถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ คล้ายกับพระเครื่องบ้านเราประดับบูชาอยู่เป็นจำนวนนับพันองค์ มีทั้งพระที่นำมาติดไว้ที่ผนังถ้ำและพระที่แกะสลักขึ้นจากผนังถ้ำ ซึ่งมีความงดงามโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง และบริเวณใกล้กันนั้นก็มีสระน้ำผุดที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหาร หลังอาหารให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย (พักที่โรงแรม Thiri Hpa-An หรือระดับเดียวกัน)
วันที่หก พะอัน – เจดีย์ชเวยินเหม่ว – เมียวดี – แม่สอด
07.00 น. มิงกาลาบ่า...บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08:00 น. ชมและนมัสการ เจดีย์ชเวยินเหม่ว (Shwe Yinh Myaw) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวินที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำของชาวพะอันที่เรียบง่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับสู่เมียวดี – แม่สอด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย เดินทางถึงด่านเมียวดี – แม่สอด นำท่านผ่านพิธีการผ่านแดนออกจากพม่า เข้าสู่ประเทศไทย ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพและประทับใจ



รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนกันได้ตามความเหมาะสม โดยอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าทัวร์และผู้ประสานงานท้องถิ่นในครั้งนั้น ๆ โดยจะยึดถือประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ และขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ปัจจุบัน



สอบถามรายละเอียด..คลิก

รู้จักพม่าตอนใต้
พม่าตอนใต้ (Southern Myanmar) แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ยังสงบ สะอาด บริสุทธิ์ และสะดุดตา อยู่ใกล้ชิดติดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ประกอบไปด้วย รัฐมอญ (Mon State) รัฐกะเหรี่ยง (Karen State) และเขตตะนาวศรี (Tanintraryi Division) เมืองเหล่านี้รุ่มรวยไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรม จากดินแดนหุบเขาแห่งรัฐกะเหรี่ยงลัดเลาะผ่านแม่น้ำสาละวินถึงรัฐมอญ และทอดยาวสู่ขุนเขาตะนาวศรีไปจนถึงหมู่เกาะมะริด 800 เกาะ ด้วยพื้นที่ประมาณ 86,000 ตารางกิโลเมตร ติดชายฝั่งทะเลอันดามัน 320 กิโลเมตรและประชากรราว 5,000,000 คน พม่าตอนใต้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวและนักสำรวจมิอาจมองข้ามไปได้ อ่านต่อ >>>